วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2558

3 สูตรน้ำพริกอ่อง อร่อยไม่รู้เบื่อ


น้ำพริกอ่อง หรือ Nam Prik Aong (Northern Thai Meat and Tomato Spicy Dip) น้ำพริกรสอร่อยของชาวเหนือ ผสมรสหวานของเนื้อหมู เสน่ห์รสเปรี้ยวอมหวานของมะเขือเทศ ทำให้น้ำพริกถ้วยนี้มีรสชาติอร่อยอย่างไม่รู้เบื่อ ลองถ้าได้นำน้ำพริกอ่องมารับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ แนมด้วยผัก ระวังจะทานเพลินจนข้าวหมดไม่รู้ตัว แม้แต่คนที่ไม่ชอบทานมะเขือเทศ (^_^) zabwer.com ก็ขอแนะนำว่าให้ลองหาน้ำพริกอ่องมาทำทานดูนะครับ...วิธีทำนั้นก็ไม่ยาก...แล้วคุณอาจจะหลงรักมะเขือเทศขึ้นมาก็ได้ เมื่อได้ทานแล้วก็อยากทานอีก อร่อยและได้คุณค่าเช่นนี้ เราก็อยากให้ลองมาทำทานกัน สูตรวิธีทำน้ำพริกอ่องก็ง่ายๆตามนี้เลยครับ


สูตรที่ 1 น้ำพริกอ่องสูตรดั้งเดิม ชาวเหนือ

น้ำพริกอ่องสูตรดั้งเดิมจะไม่ใส่น้ำตาล เพราะรสเปรี้ยวและหวานจะได้จากผลของมะเขือเทศ ที่ผสมรสหวานของเนื้อหมูอีกด้วย

ส่วนผสมของน้ำพริกอ่อง
เนื้อหมูบด 400 กรัม
มะเขือเทศลูกเล็ก 20 ลูก
ผักชีและต้นหอมซอย (เพื่อโรยหน้า) อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

เครื่องแกงน้ำพริกอ่อง
พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด
หอมแดง 5 หัว
กระเทียมไทย (กลีบเล็ก หรือกลีบใหญ่ก็ได้) 10 กลีบ
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ ½ ช้อนชา


วิธีทำ
1. โขลกพริก หอมแดง กระเทียม รวมกันให้ละเอียด
2. ใส่กะปิและเกลือ โขลกให้เข้ากัน
3. ผัดเครื่องแกงกับน้ำมัน จนมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อหมูบด ลงผัดให้สุก เติมน้ำเล็กน้อย
4. พอเดือด ใส่มะเขือเทศ ลงผัดให้เข้ากัน ตั้งไฟต่อจนมะเขือเทศสุก ปิดไฟ

สูตรและรูปภาพจาก: น้ำพริกอ่อง.blogspot.com 

สูตรที่ 2 น้ำพริกอ่องสูตรนี้ทำง่าย อร่อยเวอร์

สำหรับสูตรนี้จะไม่เหมือนสูตรของทางเชียงใหม่ สูตรนี้จะออกหวานนิดๆและมีรสชาติกลมกล่อม สามารถรับประทานได้ไม่รู้เบื่อ


สูตรและรูปภาพจาก:Tukata001 

ส่วนผสมน้ำพริกอ่อง
หมูสับ ใช้หมูติดมันจะอร่อย เพราะนิ่ม
มะเขือเทศ 15-20 ลูก
พริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด (ชอบเผ็ด)
กระเทียม 5 กลีบ (กระเทียมฝรั่ง)
หอมแดง 3 หัว (หอมแดงฝรั่ง)
กะปิ 1/2 ชช

เกลือ 1/2 ชช
น้ำปลาดี 3-4 ชต (ชิมรสเอานะคะ)
น้ำตาลปี๊บ 2 ชต
น้ำมะขามเปียก 3 ชต
ผักตามชอบ วันนี้ มีผักชี และแตงกวา

วิธีทำ
1. นำพริกแช่น้ำให้เปื่อย นำพริก กระเทียม หัวหอม กะปิ รากผักชี นำไปใส่ครกโขลกรวมกันหรือใส่ในเครื่องปั่นบดให้เข้ากัน พร้อมมะเขือเทศให้ละเอียด
2. นำเครื่องแกงที่ได้ (จากข้อ 1) ลงผัดในน้ำมันให้หอม
3. นำเนื้อหมูสับใส่ลงผัดต่อให้สุก
4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียก ให้ได้ออกสามรส คือ เปรี้ยว หวาน เค็ม
5. แค่นี้ก็เสร็จ ตักใส่ถ้วยได้ทานกับผักสดตามชอบแล้ว

สูตรที่ 3 น้ำพริกอ่อง สูตรอร่อยต้องลอง

เป็นสูตรน้ำพริกอ่องสูตรดั้งเดิมต้นตำรับที่วิชัย ทาเปรียว ข่าวสดเชียงใหม่นำมาบอกกล่าวกัน มีเครื่องปรุงและวิธีทำอย่างไรบ้าง…ไปดูกัน

เครื่องปรุง
หมูสับ 250 กรัม
มะเขือเทศลูกใหญ่ 3-4 ลูก
พริกแห้งบางช้างหั่นเป็นท่อน
(เอาเมล็ดออกแช่น้ำ 3 เม็ด)

ข่า 2 แว่น
กะปิปิ้งไฟ หรือถั่วเน่า 1 ช้อนชา
หอมแดง 2 หัว
กระเทียมกลีบเล็ก 4 กลีบ
รากผักชี 2 ราก
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา พอประมาณ
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
รสดีรสหมู 1 ช้อนชา
ต้นหอมซอย พอประมาณ
ผักชีซอย พอประมาณ

วิธีทำ
1. นำมะเขือเทศมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เท่าที่จะเล็กได้ ต้นหอมผักชีซอยเตรียมไว้
2. ลงมือเตรียมเครื่องน้ำพริกเอาไว้ เริ่มจากนำพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ข่า รากผักชี กะปิหรือถั่วเน่าใส่ครกแล้วโขลกให้ละเอียดเข้ากัน นำหมูสับลงไปย้ำกับครกให้เข้ากับเครื่องแกงน้ำพริกที่โขลกไว้ นำมะเขือเทศที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในครกแล้วย้ำให้เข้ากัน แต่อย่าให้ละเอียด
3. นำกระทะตั้งไฟ (ใช้ไฟอ่อนๆถึงปานกลาง) ใส่น้ำมันลงไป พอร้อนใส่กระเทียมสับที่เหลือลงไป ผัดให้หอม
4. นำเครื่องที่โขลกกับหมูไว้ลงผัดให้ทั่ว ใส่รสดีรสหมูลงไปผัดด้วยไฟอ่อน (คั่วน้ำพริกแกงอย่าให้ไหม้ เพราะจะทำให้มีรสขมได้)
5. ปรุงรสด้วยน้ำปลา แล้วเคี่ยวจนกระทั่งมะเขือเทศเปื่อย
6. ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักชี ต้นหอม เสิร์ฟพร้อมกับผักสด และแคบหมู

เครื่องเคียงรับประทานกับน้ำพริกอ่อง
แคปหมู, ข้าวเหนียว หรือข้าวสวย
ผักต้มหรือนึ่งตามชอบ เช่น ฟักทอง, กะหล่ำปลี, ฟักเขียว, บวบ, ดอกแค, หัวปลี
ผักสด เช่น ยอดกระถิน, ถั่วพู, แตงกวา, มะเขือเปราะ, ถั่วฝักยาว, ผักไผ่, ผักชีฝรั่ง, สะระแหน่, ผักกาดขาว

แนะนำเพิ่มเติม
  • มะเขือเทศควรจะใช้มะเขือเทศผลเล็กชนิดเป็นพวง คือมะเขือส้ม ตามที่คนภาคเหนือเรียก เพราะจะมีรสเปรี้ยวกว่ามะเขือเทศผลใหญ่ 
  • ส่วนเนื้อหมูควรจะเป็นหมูติดมันเล็กน้อย (จะนิ่มและอร่อย) และสับให้ขาดไม่ติดเป็นพวง หรือเลือกใช้ส่วนสะโพกหมู หรือหมูเนื้อแดง หรือหมูส่วนสันนอกจะอร่อยกว่าแบบซื้อหมูบดสำเร็จครับ… (ซื้อที่ตลาดให้เค้าบดมาเลยก็ได้ครับ)
  • ถ้าจะให้ดีกับสุขภาพควรทานคู่กับผัก จะได้ช่วยในระบบขับถ่ายได้ดี และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรทานกับผักสด (เพราะผักต้มจะสูญเสียวิตามินซีไปกับการต้ม) นอกจากนี้ สามารถเลือกรับประทานคู่กับผักที่มีในท้องถิ่นของเราเอง ถ้าหากอยากจะได้รับสารอาหารหลากหลายจากผัก ก็ควรรับประทานกับผักหลากสีหลากชนิดนะครับ
  • ในมะเขือเทศอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่มีวิตามินและเกลือแร่มากมาย ทั้งวิตามินซีสูงช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยชุ่มชื่น มีสารไลโคพีน มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรอย มีวิตามินเอบำรุงสายตา มีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งที่อวัยวะต่างๆ ช่วยระบบการย่อย ช่วยการขับถ่ายอุจจาระ และประโยชน์อีกมากมาย
  • ควรระวังปริมาณไขมัน ดังนั้นน้ำมันพืชที่ใช้ผัด...ควรใส่ให้น้อย

เรียบเรียงข้อมูลโดย: zabwer.com
12:28