วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

12 สูตรน้ำสมุนไพรยอดฮิต ทำขายสร้างรายได้

เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ น้ำสมุนไพร หรือน้ำผลไม้ สามารถทำขายเป็นอาชิพเสริมหรืออาชีพหลักได้ โดยเฉพาะน้ำสมุนไพรนั้น ลงทุนน้อย กำไรงาม วิธีทำก็แสนง่ายไม่ยุ่งยาก ทำบรรจุขวดขาย ยิ่งปัจจุบันคนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้นจึงเป็นที่ต้องการของตลาดค่อนข้างมาก น้ำสมุนไพรนั้นหากทำดีๆ รสชาติอร่อยๆ ขายดีแน่นอน วันนี้เรานำ 12 สูตรน้ำดื่มสมุนไพรมาแนะนำ รับรองอร่อย สดชื่น ติดใจเมื่อได้ลิ้มลอง…..


1. น้ำกระเจี๊ยบพุทราจีน
น้ำกระเจี๊ยบบรรจุขวดทั่วไปดื่มแล้วชื่นใจ แต่ถ้าเพิ่มพุทราจีนลงไปหน่อยจะทำให้มีความหวานหอมกลมกล่อมและมีประโยชน์มากขึ้น


ส่วนผสม น้ำกระเจี๊ยบ
  • ดอกกระเจี๊ยบแดงแห้ง 2 กำมือ
  • พุทราจีน 2 กำมือ
  • น้ำ 3 ลิตร
  • เกลือป่น 2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
วิธีทำน้ำกระเจี๊ยบ
  1. ล้างดอกกระเจี๊ยบแดงแห้งและพุทราจีนในน้ำสะอาด เอาเศษฝุ่นออก (อย่าแช่น้ำนานเพราะจะทำให้เสียรสชาติและคุณค่าทางอาหาร)
  2. ต้มน้ำจนเมื่อน้ำเดือดจัดแล้ว จึงใส่กระเจี๊ยบกับพุทราจีนลงไปต้ม ปิดฝา แต่ยังคงไฟร้อนไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นหรี่ไฟลงให้ร้อนปานกลาง ต้มทิ้งไว้อีก 15 นาที โดยปิดฝาไว้ตลอดเวลา (เคี่ยวจนน้ำเริ่มเปลี่ยนสี)
  3. เสร็จแล้ว ค่อย ๆ เทน้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไป คนผสมให้ละลาย ในปริมาณที่ชิมแล้วออกหวานเล็กน้อยหรือรสตสมชอบ และไม่มีรสขื่น เท่านี้ก็ใช้ได้ 
  4. กรองน้ำกระเจี๊ยบพุทราจีนด้วยผ้าขาวบางใส่ลงในหม้อสเตนเลสอีกใบ เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย พักให้น้ำสมุนไพรเย็นตัวพอที่จะกรอกในขวดพลาสติกขนาด 200 ซีซี ได้ (ที่จำหน่ายขั้นต่ำขวดละ 10 บาท)

2. น้ำเสาวรส
น้ำเสาวรสเอาใจคนรักสุขภาพ เชื่อเถอะว่าต้องขายดีแน่นอน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน

ส่วนผสม น้ำเสาวรส
• เนื้อเสาวรส 2 กิโลกรัม
• น้ำเปล่า 2 ลิตร
• น้ำตาลทราย 800 กรัม
• เกลือป่นหยาบ 2 ช้อนชา

วิธีทำน้ำเสาวรส
1. ใส่เนื้อเสาวรสและน้ำเปล่าลงในโถปั่นน้ำผลไม้ ปั่นจนละเอียด จากนั้นเทใส่หม้อ
2. ยกขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่น คนจนส่วนผสมเดือด ยกลงกรองผ่านกระชอน หรือผ้าขาวบาง รอจนอุ่นหรือเย็น บรรจุใส่ขวด พร้อมดื่ม


3. น้ำหล่อฮั้งก้วย
น้ำหล่อฮั้งก้วย น้ำสมุนไพรขวดสุดฮิตประจำหน้าร้อนต้อง สูตรนี้ใส่ดอกเก๊กฮวยเพิ่มความหอมด้วย วิธีทำไม่ยาก เตรียมขวดให้พร้อม ต้มเสร็จรอให้เย็นแล้วบรรจุขวด

ส่วนผสม น้ำหล่อฮั้งก้วย
  • หล่อฮั้งก้วย 4-5 ผล
  • น้ำเปล่า 3 ลิตร
  • ดอกเก๊กฮวยตากแห้ง 2 กำมือ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
  • น้ำตาลทราย (ตามชอบ)
วิธีทำน้ำหล่อฮั้งก้วย
  1. ล้างผลหล่อฮั้งก้วยให้สะอาดแล้วบิให้แตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในหม้อแล้วเทน้ำเปล่าลงไปแช่ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
  2. นำหม้อที่แช่หล่อฮั้งก้วยขึ้นตั้งไฟอ่อน ใส่ดอกเก๊กฮวยตากแห้งลงไป เคี่ยวไปเรื่อย ๆ ประมาณ 30 นาที จากนั้นเติมน้ำตาลทรายลงไป (ปริมาณตามชอบ) ชิมรส พอครบเวลาปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็นเล็กน้อย
  3. นำน้ำหล่อฮั้งก้วยไปกรองผ่านตะแกรง รอจนอุ่นหรือเย็น บรรจุใส่ขวด พร้อมดื่ม

4. น้ำจับเลี้ยง
น้ำจับเลี้ยงดื่มเมื่อไรสดชื่นทุกครั้ง ยิ่งอากาศร้อนแบบนี้เป็นจังหวะที่ดีอย่างยิ่งเลยค่ะ ทำใส่ขวดขายซะเลย เงินจงมา…

ส่วนผสม น้ำจับเลี้ยง
  • ชุดจับเลี้ยงสำเร็จรูป (50-70 กรัม) จำนวน 1 ห่อ 
  • น้ำ 2 ลิตร 
  • น้ำตาลทราย หรือน้ำตาลทรายแดง (ตามชอบ) 
วิธีทำน้ำจับเลี้ยง
  1. ใส่เครื่องจับเลี้ยงลงในหม้อ ตามด้วยน้ำ ต้มไฟอ่อนจนเดือด และน้ำเปลี่ยนสี ประมาณ 20 นาที ยกลงจากเตา กรองด้วยผ้าขาวบาง เอาเฉพาะน้ำ เทกลับใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟ 
  2. ใส่น้ำตาลทราย คนผสมให้เข้ากัน ต้มจนเดือด ยกลงจากเตา รอจนอุ่นหรือเย็น บรรจุใส่ขวด พร้อมดื่ม 

5. น้ำเก๊กฮวย
น้ำเก๊กฮวยกลิ่นหอมและดื่มง่าย สูตรนี้มีความหอมจากกลิ่นใบเตยด้วย ทำง่าย ๆ รับรองได้กำไรดีทีเดียว

ส่วนผสม น้ำเก๊กฮวย
  • • ดอกเก๊กฮวย 1 กำมือ
  • • น้ำ 2 ลิตร
  • • น้ำตาลทราย 500 กรัม
  • • ใบเตย 10 ใบ
วิธีทำน้ำเก๊กฮวย
  1. ต้มน้ำ ใส่ใบเตยลงไป รอจนเดือดกับใบเตยจนเดือด ใส่ดอกเก๊กฮวยลงไปเคี่ยวสักพัก
  2. ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้ละลาย รอจนเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ พักไว้จนเย็น
  3. พอน้ำเก๊กฮวยเริ่มอุ่น ยกลงกรองกับผ้าขาวบาง (*** ระหว่างแช่ดอกเก็กฮวยห้ามคนเด็ดขาด จะทำให้ขม***)
  4. บรรจุใส่ขวด พร้อมดื่ม

6. น้ำดอกคำฝอย
น้ำดอกคำฝอยสรรพคุณแจ่มแต่หาดื่มยากเหมือนกันนะคะ ลองทำเป็นน้ำสมุนไพรขวดขายสิรับรองขายดิบขายดี สูตรนี้นอกจากใส่ดอกคำฝอยลงไปต้มกับน้ำแล้วยังใส่ดอกเก๊กฮวยเพิ่มกลิ่นหอมอีกด้วย เพิ่มความหวานจากน้ำเชื่อมอีกนิด ลูกค้าดื่มต้องติดใจแน่นอน

ส่วนผสม น้ำดอกคำฝอย
  • น้ำ 2 ลิตร
  • ดอกคำฝอยแห้ง 4 ช้อนโต๊ะ
  • ดอกเก๊กฮวยแห้ง 1 กำมือ
  • น้ำตาลทราย (ตามชอบ)
วิธีทำน้ำดอกคำฝอย
  1. ใส่น้ำ ดอกคำฝอย และดอกเก๊กฮวยลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟแรงต้มจนเดือดและน้ำเริ่มเปลี่ยนสี
  2. ลดไฟอ่อนลง เติมน้ำตาลทรายลงไปคนผสมให้ละลาย ชิมรสตามชอบ ต้มต่ออีกสักครู่
  3. ยกลงจากเตา กรองเอากากออก รอจนอุ่น ตักใส่ขวด พร้อมดื่ม

7. น้ำมะตูม
ใครสนใจอยากได้สูตรน้ำมะตูมเข้ามาจดสูตรได้เลยค่ะ เริ่มจากเอามะตูมแห้งไปย่างไฟจนหอมแล้วค่อยเอาไปต้มกับน้ำเปล่าค่ะ สูตรนี้ใส่น้ำตาลทรายแดงเพิ่มสีสันและรสหวานกลมกล่อม ถ้าพรุ่งนี้เช้าจะต้มน้ำสมุนไพรขวดขายไปซื้อมะตูมแห้งไว้รอเลย

ส่วนผสม น้ำมะตูม
  • มะตูมแห้ง 10 ชิ้น
  • น้ำ 2 ลิตร
  • น้ำตาลทรายแดง 100 กรัม
วิธีทำน้ำมะตูม
  1. นำมะตูมแห้งไปย่างไฟ หรือคั่วในกระทะจนมีกลิ่นหอม เตรียมไว้
  2. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลางใส่มะตูมที่ย่างไฟลงไปต้มจนเดือดและน้ำเปลี่ยนสี หรือนานประมาณ 30 นาที
  3. จากนั้นใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปคนผสมจนน้ำตาลละลายหมด ชิมรส
  4. ยกลงจากเตา กรองเอากากออก พักทิ้งไว้จนเย็น บรรจุใส่ขวด พร้อมดื่ม

8. น้ำใบบัวบก

น้ำใบบัวบกทั่วไปอาจมีกลิ่นเหม็นเขียว แต่ขอบอกว่าถ้าใครได้ทำน้ำใบบัวบกสูตรนี้รับรองหอมอร่อยแน่นอน เพราะใส่ใบเตยลงไปเพิ่มความหอม และได้ความหวานจากน้ำเชื่อม ใครได้ดื่มต้องติดใจจ้า

ส่วนผสม น้ำใบบัวบก
  • ใบบัวบก 1 กิโลกรัม ถึง 1.5 กิโลกรัม
  • น้ำ 12 ถ้วย
  • ใบเตย 6 ใบ
  • น้ำเชื่อม 6 ถ้วย
วิธีทำน้ำใบบัวบก
  1. ล้างใบบัวบกให้สะอาด สะเด็ดน้ำ จากนั้นหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ เตรียมไว้
  2. ต้มน้ำกับใบเตยจนเดือด พักทิ้งไว้จนน้ำอุ่น
  3. แบ่งใบบัวบกเป็น 6 ส่วน ทยอยใส่ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำต้มสุกที่อุ่นแล้ว 1 ถ้วยลงปั่นจนละเอียดเป็นน้ำ ทำซ้ำจนหมด
  4. ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เอาแต่เฉพาะน้ำ
  5. ใส่น้ำเชื่อมลงในน้ำใบบัวบก คนผสมให้เข้ากัน พักทิ้งไว้จนเย็น บรรจุใส่ขวด พร้อมดื่ม

9. น้ำฟักข้าว
ปิดท้ายกันด้วยสูตรน้ำฟักข้าวสีส้มสรรพคุณเลอค่า ที่หาดื่มยากนัก ใครสนใจทำเป็นน้ำสมุนไพรขวดขายต้องได้รับการตอบรับดีเกินคาดแน่นอน

ส่วนผสม น้ำฟักข้าว
  • ฟักข้าว 2 ลูก
  • น้ำต้มสุก 6 ถ้วย
  • เกลือป่น เล็กน้อย
  • น้ำเชื่อม ตามชอบ

วิธีทำน้ำฟักข้าว
  1. ผ่าครึ่งลูกฟักข้าว คว้านเอาเม็ดออก จากนั้นปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
  2. ใส่เนื้อฟักข้าวลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำต้มสุก ปั่นจนละเอียดเข้ากันดี เติมน้ำเชื่อมและเกลือป่นตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน พักทิ้งไว้จนเย็น บรรจุใส่ขวด พร้อมดื่ม

10. น้ำอัญชันมะนาว
ดอกอัญชันนอกจากเอาไปทำเป็นสีใส่ขนมไทยได้แล้วยังเอามาทำเครื่องดื่มน้ำอัญชันมะนาว รสชาติเปรี้ยวหวานชื่นใจได้อีกด้วย ใครสนใจไปเด็ดดอกอัญชันหน้าบ้านรอไว้เลย แค่นี้ก็พร้อมต้มน้ำสมุนไพรขวดขายกันแล้ว

ส่วนผสม น้ำอัญชันมะนาว
  • น้ำ 2 ถ้วยตวง
  • ดอกอัญชันสด 100 กรัม
  • น้ำเชื่อม 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว (ตามชอบ)
วิธีทำน้ำอัญชันมะนาว
  1. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด ใส่ดอกอัญชันลงต้ม ปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที ยกลงจากเตา ยกลงกรองดอกอัญชันออก เอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้
  2. ผสมน้ำดอกอัญชันกับน้ำเชื่อม น้ำผึ้ง และน้ำมะนาว คนผสมให้เข้ากัน พักทิ้งไว้จนเย็น บรรจุใส่ขวด พร้อมดื่ม

11. น้ำอัญชัญใบเตย
ส่วนผสม
  • ดอกอัญชัน 1 กำมือ 
  • ใบเตย 3-4 ต้น 
  • น้ำมะนาว 
  • เกลือป่นเสริมไอโอดีน 
วิธีทำ
  1. นำดอกอัญชันมาเด็ดขั้วออกและล้างให้สะอาด เตรียมไว้ และเตรียมใบเตย 3-4 ต้น ล้างให้สะอาดและหั่นครึ่ง เตรียมไว้ 
  2. ต้มน้ำสะอาดในหม้อสเตนเลสขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8.5 นิ้ว และสูง 9 นิ้ว ต้มจนน้ำเดือดจัด เมื่อน้ำเดือดจัดแล้วใส่อัญชัน และใบเตยลงไป ปิดฝา แต่ยังคงไฟร้อนไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นหรี่ไฟลงให้ร้อนปานกลาง ปิดฝาไว้ตลอดเวลา ต้มทิ้งไว้อีก 15 นาที 
  3. เสร็จแล้วบีบมะนาวและเกลือลงไปเล็กน้อย เพื่อให้สีจากดอกอัญชันออกมามาก ๆ แล้วค่อย ๆ เทน้ำตาลทรายใส่ลงไป ปริมาณที่ชิมแล้วออกหวานเล็กน้อย และไม่มีรสเฝื่อน 
  4. กรองน้ำด้วยผ้าขาวบางใส่น้ำอัญชันลงในหม้อสเตนเลส อีกใบ เท่านี้ก็ใช้ได้ พักให้น้ำสมุนไพรเย็นตัวพอที่จะกรอกในขวดพลาสติกขนาด 200 ซีซี ได้ 

12. น้ำตะไคร้ใบเตย
น้ำตะไคร้ใบเตย นั้นมีสรรพคุณช่วยในการลดไขมันในเส้นเลือด บำรุงธาตุไฟ ขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืด ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยบำรุงหัวใจ รสเย็นสบาย ให้กลิ่นหอมสดชื่น

ส่วนผสม
  • ตะไคร้สด 6-7 ต้น
  • ใบเตย 3-4 ต้น
  • น้ำตาลทรายแดง
วิธีทำ
  1. นำตะไคร้สดมาตัดใบออก ล้างให้สะอาด แล้วทุบด้านหัวให้พอแตก เตรียมไว้ และเตรียมใบเตยล้างให้สะอาด แล้วหั่นครึ่ง เตรียมไว้
  2. ต้มน้ำสะอาดในหม้อสเตนเลสขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8.5 นิ้ว และสูง 9 นิ้ว ต้มจนน้ำเดือดจัด เมื่อน้ำเดือดจัดแล้วใส่ตะไคร้ และใบเตยลงไป ปิดฝา แต่ยังคงไฟร้อนไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นหรี่ไฟลงให้ร้อนปานกลาง ต้มทิ้งไว้อีก 15 นาที…โดยปิดฝาตลอดเวลา 
  3. เสร็จแล้ว ค่อย ๆ เทน้ำตาลทรายใส่ลงไปในปริมาณที่ชิมแล้วออกหวานเล็กน้อย และไม่มีรสเฝื่อน
  4. กรองน้ำสมุนไพรด้วยผ้าขาวบางลงในหม้อสเตนเลสอีกใบ แล้วพักให้เย็นตัวพอที่จะกรอกในขวดพลาสติกขนาด 200 ซีซี เท่านี้ก็เสร็จแล้ว
เคล็ดลับความอร่อย
  • การเลือกสมุนไพร การเลือกสมุนไพรที่จะนำมาทำน้ำสมุนไพร ต้องคำนึงถึงสมุนไพรที่สด ถ้าเป็นสมุนไพรที่ต้องทำให้แห้ง ควรเลือกสมุนไพรที่ใหม่สะอาด ดูลักษณะ สี กลิ่น ดูว่ามีเชื้อราหรือไม่ สมุนไพรที่สดใหม่ช่วยให้ได้คุณค่าทางโภชนาการสูง สีสันน่ารับประทาน 
  • ความสะอาด ทั้งสมุนไพรและภาชนะที่ใช้ต้องสะอาด ป้องกันการปนเปื้อนเชื้อ ถ้าไม่สะอาด อาจทำให้ผู้ดื่มน้ำสมุนไพร ท้องเสีย และยังทำให้สมุนไพรเก็บไม่ได้นานเท่าที่ควร 
  • ภาชนะที่ใช้ ภาชนะที่ต้มควรจะเป็นหม้อเคลือบ ไม่ควรใช้หม้ออลูมิเนียม เพราะอาจทำให้กรดที่อยู่ในสมุนไพรกัดภาชนะ ถ้าเป็นหม้อหรือกะทะทองเหลืองจะทำให้รสของน้ำสมุนไพรเปลี่ยนไป นอกจากนี้การที่เราดื่มน้ำสมุนไพรที่มีสารโลหะหนักผสมอยู่อาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ สำหรับภาชนะที่บรรจุควรจะเป็นขวดแก้ว จะสะดวกในการนึ่ง และน้ำสมุนไพรจะไม่ทำปฏิกิริยากับขวดแก้ว ภาชนะที่เป็นแก้วยังดูใสสะอาดน่าดื่มยิ่งขึ้น
  • เทคนิคของการที่ทำให้น้ำสมุนไพรอยู่ได้นานถึง 7 วัน โดยไม่ต้องใส่สารกันบูด คือระหว่างที่รอให้น้ำสมุนไพรเย็นตัวนั้น ให้นำหม้อน้ำสมุนไพรนี้ ใส่ลงในกะละมังที่มีน้ำเย็นอยู่ วิธีนี้จะทำให้น้ำสมุนไพรอยู่ได้นานขึ้น
เอาล่ะ… ใครอยากทำขายก็จัดไป รับรองถ้าทำขายหมุนเวียนกันไปทุกวันลูกค้าไม่เบื่อแน่นอน

Credit: chaoprayanews.com
www.msn.com
08:41